เป้อุ้มเด็ก ทุกเรื่องที่แม่ควรรู้

เป้อุ้มเด็ก

เป้อุ้มเด็ก ทุกเรื่องที่แม่ควรรู้

ทำไมต้องใช้ เป้อุ้มเด็ก

เป้อุ้มเด็ก เปรียบเสมือนมือขวาของพ่อแม่ยุคใหม่ ช่วยให้ทำกิจกรรมต่างๆ สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าลูกน้อยจะร้องไห้งอแง เพราะได้อยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่ เป้อุ้มเด็ดยังมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

สร้างสายสัมพันธ์

การอุ้มลูกน้อย ช่วยให้เกิดความอบอุ่น ผ่อนคลาย ส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ และสร้างสายใยระหว่างพ่อแม่กับลูก การศึกษาจากมหาวิทยาลัย Notre Dame พบว่า ทารกที่ได้รับการอุ้มบ่อย ร้องไห้น้อยกว่า นอนหลับนานขึ้น และมีความสัมพันธ์กับพ่อแม่ที่ดีกว่า

  • คุณแม่สามารถอุ้มลูกน้อยให้นมบุตรในเป้อุ้มเด็ก ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และส่งเสริมการหลั่งน้ำนม
  • คุณพ่อสามารถอุ้มลูกน้อยไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ช่วยให้ลูกน้อยได้สัมผัสธรรมชาติ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

สะดวกคล่องแคล่ว

เป้อุ้มเด็กช่วยให้พ่อแม่ทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวก โดยไม่ต้องกังวลว่าลูกจะร้องไห้งอแง เหมาะสำหรับการพาลูกไปเที่ยว ทำงานบ้าน หรือทำธุระต่างๆ ตัวอย่างเช่น พ่อแม่สามารถอุ้มลูกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยไม่ต้องเข็นรถเข็นเด็ก หรือพาลูกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ โดยไม่ต้องกังวลว่าลูกจะวิ่งหนี

ส่งเสริมพัฒนาการที่ดี

การอุ้มเด็กในท่าที่ถูกต้อง ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูก เช่น กล้ามเนื้อคอ กล้ามเนื้อหลัง กระดูกสันหลัง ทารกที่ได้รับการอุ้มบ่อย จะมีกล้ามเนื้อคอและหลังที่แข็งแรง ช่วยให้สามารถพลิกคว่ำ พลิกหงาย นั่ง และคลานได้เร็วขึ้น

Tips ระหว่างการใช้งานเป้อุ้ม

  • สังเกตท่าทางของเด็กขณะอยู่ในเป้อุ้มเด็ก
  • ถามเด็กว่ารู้สึกอย่างไร
  • ตรวจสอบเป้อุ้มเด็กก่อนใช้งานทุกครั้ง

อันตรายจากเป้อุ้มเด็ก

เป้อุ้มเด็กโดยทั่วไปมีความปลอดภัย แต่ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่เหมาะกับวัย น้ำหนัก และขนาดของลูกน้อย ใช้งานอย่างถูกต้องตามคำแนะนำ และไม่ควรอุ้มนานเกินไป

เป้อุ้มลูก

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

  • การอุ้มไม่ถูกวิธี อาจทำให้ลูกน้อยหายใจไม่สะดวก กระดูกสันหลังผิดรูป หรือสะโพกพัฒนาไม่สมบูรณ์
  • การอุ้มนานเกินไป อาจทำให้ลูกน้อยร้อน เหงื่อออก และเกิดผื่นแพ้ ทารกแรกเกิดไม่ควรอยู่ในเป้อุ้มเด็กนานเกิน 2 ชั่วโมงต่อครั้ง
  • การเลือกเป้อุ้มเด็กไม่เหมาะสม อาจทำให้ลูกน้อยรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว 
  • เด็กทารกที่คอยังไม่แข็ง ควรใช้เป้อุ้มเด็กที่มีสายรัดรองรับศีรษะและคอ

วิธีลดความเสี่ยง

  • เลือกเป้อุ้มเด็กที่เหมาะกับวัย น้ำหนัก และขนาดของลูกน้อย
  • ศึกษาวิธีใช้งานเป้อุ้มเด็กอย่างถูกต้อง
  • ปรับสายรัดให้พอดี ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป
  • อุ้มลูกน้อยในท่าที่ถูกต้อง ทารกแรกเกิดควรอยู่ในท่าอุ้มแนวนอน เด็กโตขึ้นสามารถอุ้มในท่าหันหน้าเข้า หรือหันหน้าออก
  • ไม่ควรอุ้มนานเกินไป ควรพักเป็นระยะๆ ทุก 20-30 นาที

เลือกเป้อุ้มยังไงให้ปลอดภัย

เป้อุ้มเด็ก

1. เลือกให้เหมาะกับวัย

  • ทารกแรกเกิด : ควรเลือกเป้อุ้มเด็กแบบ Soft Structured Carrier (SSC) ที่รองรับศีรษะและคอ
  • เด็กวัย 3-6 เดือน : สามารถใช้เป้อุ้มเด็กแบบ SSC หรือ Hipseat
  • เด็กวัย 6 เดือนขึ้นไป : สามารถใช้เป้อุ้มเด็กแบบต่างๆ ได้มากขึ้น 

2. เลือกให้เหมาะกับขนาด

  • เป้อุ้มเด็กควรมีขนาดพอดีกับตัวลูกน้อย ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป
  • ควรลองให้ลูกน้อยใส่ก่อนซื้อ เพื่อดูว่าลูกน้อยรู้สึกสบายตัวหรือไม่

3. เลือกวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี

  • ผ้าที่ใช้ทำเป้อุ้มเด็กควรระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันลูกน้อยร้อน เหงื่อออก
  • ควรเลือกผ้าที่ทนทาน

4. เลือกที่มีสายรัดรองรับ

  • เป้อุ้มเด็กควรมีสายรัดรองรับที่แข็งแรง เพื่อกระจายน้ำหนัก
  • สายรัดควรปรับระดับได้ เพื่อให้พอดีกับผู้ใช้งาน

5. เลือกที่มีมาตรฐานความปลอดภัย

  • ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่มีมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น ASTM International

6. ใช้งานอย่างถูกต้อง

  • อ่านคู่มือการใช้งานเป้อุ้มเด็กก่อนใช้งาน
  • ปรับสายรัดให้กระชับพอดี ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป
  • ไม่ควรอุ้มลูกนานเกินไป ควรพักทุก 1-2 ชั่วโมง

7. ตรวจสอบสภาพเป้อุ้มเด็กก่อนใช้งาน

  • ตรวจสอบว่าสายรัด หัวเข็มขัด และตัวล็อกอยู่ในสภาพดี
  • ไม่ควรใช้เป้อุ้มเด็กที่ชำรุด

การเลือกเป้อุ้มเด็กที่ปลอดภัยและเหมาะสม จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวก และสร้างความผูกพันระหว่างครอบครัว

ประเภทของเป้อุ้มแบบต่างๆ 

เป้อุ้มเด็กมีหลากหลายแบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเป้อุ้มเด็กให้เหมาะกับวัย น้ำหนัก และขนาดของลูกน้อย ตลอดจนกิจกรรมที่ต้องการใช้งาน

เป้อุ้มเด็ก

1. เป้อุ้มเด็กแบบ Soft Structured Carrier (SSC)

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดขึ้นไป
  • รองรับศีรษะและคอของทารก
  • กระจายน้ำหนักได้ดี
  • เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นเวลานาน

2. เป้อุ้มเด็กแบบ Hipseat

  • เหมาะสำหรับเด็กวัย 3-6 เดือนขึ้นไป
  • รองรับสะโพกของลูกน้อย
  • ช่วยให้ผู้ใช้งานอุ้มลูกได้นานขึ้น
  • เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

3. เป้อุ้มเด็กแบบ Mei Tai

  • เหมาะสำหรับเด็กวัย 6 เดือนขึ้นไป
  • ผ้าพันรอบตัวลูกน้อย
  • กระจายน้ำหนักได้ดี
  • เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นเวลานาน

4. เป้อุ้มเด็กแบบ Ring Sling

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดขึ้นไป
  • ผ้าคล้องไหล่และสะโพก
  • กระชับ อบอุ่น
  • เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน

5. เป้อุ้มเด็กแบบ Onbuhimo

  • เหมาะสำหรับเด็กวัย 6 เดือนขึ้นไป
  • สะพายหลัง
  • กระจายน้ำหนักได้ดี
  • เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นเวลานาน

6. เป้อุ้มเด็กแบบ Piggyback Rider

  • เหมาะสำหรับเด็กวัย 2 ขวบขึ้นไป
  • นั่งบนบ่าผู้ใช้งาน
  • เหมาะสำหรับการเที่ยวชมสถานที่

เป้อุ้มเด็กมีหลากหลายแบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเป้อุ้มเด็กให้เหมาะกับวัย น้ำหนัก และขนาดของลูกน้อย ตลอดจนกิจกรรมที่ต้องการใช้งาน

นอกจากนี้ ยังมีเป้อุ้มเด็กแบบพิเศษ เช่น เป้อุ้มเด็กสำหรับเด็กพิเศษ เป้อุ้มเด็กสำหรับว่ายน้ำ ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ

Tips

  • อ่านรีวิวเป้อุ้มเด็กก่อนตัดสินใจซื้อ
  • ลองให้ลูกน้อยใส่ก่อนซื้อ เพื่อดูว่าลูกน้อยรู้สึกสบายตัวหรือไม่
  • ซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้

เลือกเป้อุ้มยังไง ให้คุ้มค่า

หากเป็นคุณพ่อคุณแม่สายคุ้มค่า อาจเลือกเป้อุ้มที่สามารถใช้ได้ยาวนาน ตั้งแต่ลูกคอแข็งหรือตั้งแต่น้ำหนักตัว 3.6-15 กก. แถมยังอุ้มได้ 4 ท่า 

  1. หันหน้าเข้า (0-3 เดือน) 
  2. หันหน้าเข้า (3-6 เดือน) 
  3. หันหน้าออก 
  4. หรือจะเป็นการอุ้มสะพายหลัง 

ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่ต้องถือของหรือทำงานบ้านต่างๆ รองรับน้ำหนักที่สะโพกทำให้ไม่ปวดหลัง 

  • แถมยังมีน้ำหนักเบาเพียง 500 กรัม
  • สายคาดเอวพิเศษ รองรับและปรับน้ำหนักมาลงที่ส่วนสะโพก ไม่ทิ้งตัวไปที่หลัง ทำให้ไม่ปวดหลัง
  • สายสะพายไหล่ใหญ่รองรับน้ำหนักได้ดี
  • ที่รองคอลูกแข็ง ไม่ทำให้เด็กคอพับ

เป้อุ้มเด็กที่มียอดขายอันดับ 1 ใน amazon.com ที่คุณพ่อคุณแม่ทั่วโลกไว้วางใจเสมอมา

รีวิวจากลูกค้าทั่วโลก

รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม ยอดขายอันดับ 1
รีวิวเป้อุ้ม ยอดขายอันดับ 1
รีวิวเป้อุ้มเด็ก
รีวิวเป้อุ้ม ยอดขายอันดับ 1
image_2024-02-15_170122940
image_2024-02-15_165930192
image_2024-02-15_165901077
image_2024-02-15_165825879
image_2024-02-15_165627290
image_2024-02-15_165456820
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้ม ยอดขายอันดับ 1
image_2024-02-15_164834211
image_2024-02-15_164744175
รีวิวเป้อุ้ม
รีวิวเป้อุ้มเด็ก
รีวิวเป้อุ้ม
previous arrow
next arrow

เมื่อไหร่ถึงควรหยุดใช้เป้อุ้มเด็ก

1. เด็กโตเกินวัยหรือขนาดเป้อุ้มเล็กเกินไป

เป้อุ้มเด็กแต่ละแบบมีจำกัดน้ำหนักและขนาดสูงสุดที่รองรับ เมื่อเด็กโตเกินวัยหรือขนาด เป้อุ้มเด็กอาจไม่สามารถรองรับน้ำหนักของเด็กได้อย่างปลอดภัย

2. เด็กสามารถเดินเองได้

เมื่อเด็กสามารถเดินเองได้ แสดงว่ากล้ามเนื้อขาและสะโพกพัฒนาเพียงพอแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องใช้เป้อุ้มเด็กอีกต่อไป แต่อาจจะใช้ได้เมื่อเด็กหลับ เป้อุ้มจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่รองรับน้ำหนักได้ดี หรือลองใช้รถเข็นเด็กเป็นที่นอนแทนการอุ้ม

3. เด็กไม่ชอบ

หากเด็กแสดงท่าทางไม่ชอบอยู่ในเป้อุ้มเด็ก ควรหยุดใช้เป้อุ้มเด็ก เด็กบางคนอาจรู้สึกอึดอัด ร้อน หรือไม่ชอบถูกจำกัดการเคลื่อนไหว 

4. มีปัญหาสุขภาพ

หากเด็กมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เป้อุ้มเด็ก ทำไมเด็กที่มีปัญหาสุขภาพจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้เป้อุ้มเด็กด้วยเหตุผลหลักดังนี้

  • การหายใจลำบาก เป้อุ้มเด็กบางแบบอาจรัดหน้าอกและท้องของเด็ก ส่งผลต่อการขยายตัวของปอด ทำให้เด็กหายใจลำบาก
  • การไหลเวียนของเลือด เป้อุ้มเด็กบางแบบอาจรัดขาและสะโพกของเด็ก ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด
  • แรงกดทับ เป้อุ้มเด็กบางแบบอาจกดทับอวัยวะภายในของเด็ก ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะ
  • อุณหภูมิ เป้อุ้มเด็กบางแบบอาจทำให้อุณหภูมิร่างกายของเด็กสูงขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพเด็ก
  • เด็กที่มีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด อาจมีปัญหาในการหายใจ การใช้เป้อุ้มเด็กอาจทำให้เด็กหายใจลำบากขึ้น
  • เด็กที่มีโรคปอดอักเสบ อาจมีปัญหาในการหายใจ การใช้เป้อุ้มเด็กอาจทำให้เด็กหายใจลำบากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เด็กที่มีปัญหาสุขภาพบางประเภท สามารถใช้เป้อุ้มเด็กได้ แต่ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่ออกแบบมาสำหรับเด็กที่มีปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

5. เป้อุ้มเด็กชำรุด

หากเป้อุ้มเด็กชำรุด เช่น สายรัดขาด หัวเข็มขัดแตก ควรหยุดใช้เป้อุ้มเด็กทันที เนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายต่อตัวเด็กได้

โดยทั่วไปแล้ว เด็กควรหยุดใช้เป้อุ้มเด็กเมื่ออายุประมาณ 3 ปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของเด็กแต่ละคน

Ref webmd, rookie-baby, babylist

เลือกซื้อของใช้ ของเล่น หมอนและที่นอน ของเจ้าตัวเล็กได้ตามช่องทางด้านล่างเลยค่ะ

Share this post